Tuesday, July 8, 2014

ข่มขืนประหารชีวิต เป็นทางออกที่ดีจริงหรอ?

ข่มขืนประหารชีวิต เป็นทางออกที่ดีจริงหรอ?

ตอนแรกจะไม่เขียนแต่เห็นว่ามีหล
ายฝ่ายออกมาลงชื่อเพื่อให้กฎหมายออกว่า "ข่มขืนประหารชีวิต" ประโยคมันสั้นไปการขยายใจความในการเพิ่มโทษควรจะละเอียดกว่านี้

ว่าด้วยเรื่องโทษประหารสำหรับนักโทษคดีข่มขืนอยากให้มองในเชิงลึกในหลายๆข้อ
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยนะครับ เห็นด้วยแต่การตั้งกฎแบบนี้ควรจะแยกเป็น 2 กรณี
1. กรณีข่มขืน 2. กาณีข่มขืนและฆ่า

เหตุผลส่วนตัวของผมก็คือ จากที่ดูหลายๆประเทศที่ได้เปลี่ยนกฎหมายจากจำคุกเป็นประหารชีวิตนั้นไม่ได้ทำให้ตัวเลขของผู้ถูกข่มขืนได้ลดลงแต่กลับกันจากที่มีตัวเลขผู้ข่มขืนเกือบๆเท่าเดิมแต่มีผู้ที่ "ถูกข่มขืนและฆ่า" เพิ่มมากขึ้น
ทำไมหนะหรอ สมมุติว่ากฎหมายออกมาว่าประหารชีวิตนักโทษคดีข่มขืน นั่นหมายความว่าต่อให้ข่มขืนและไม่ฆ่า หรือข่มขืนและฆ่านั้นมีโทษเช่นเดียวกัน
คิดในแง่ของจิตแพทย์ที่เคยสอบสวนนักโทษคดีพวกนี้มาแล้วนั้นส่วนมาก % ของผู้ที่ตั้งใจจะข่มขืนและไม่ตั้งใจจะฆ่านั้นมีมากกว่าที่จะข่มขืนและฆ่า
แต่หากผู้ถูกข่มขืนไม่เสียชีวิตนั่นหมายความว่าโอกาสของผู้ต้องหาจะโดนจับนั้นสูงกว่า
และหากโทษมีเท่าเทียมกัน เหตุใดจะเป็นการลดการฆ่าและข่มขืน? คิดในแง่มุมของฆาตกรแน่นอนว่าอยากโดนจับ ปล่อยผู้เคราะห์ร้ายออกไปเพื่อให้มีหลักฐานในการจับตัวง่ายกว่านั้นอาจไม่ใช่ข้อที่นักโทษเลือกนัก

เพราะงั้นในความคิดผมนะ (คนอื่นอาจจะคิดแตกต่าง)
1.สำหรับนักโทษข่มขืน ควรให้ใช้ยาฉีดให้หมดสมรภาพ ให้อัณฑะฝ่อเหมืนอเช่นเดียวกับที่เกาหลีมี ไม่สามารถใช้งานได้ ไม่สามารถแข็งตัวได้ และไม่มีความรู้สึก ให้นักโทษอยู่กับสิ่งที่มีแต่ไปทำมิดีมิร้ายผู้อื่นไม่ได้ หากพ้นโทษ (ซึ่งเมืองไทยลดหย่อนผ่อนโทษเป็นว่าเล่น)

2.สำหรับนักโทษที่ข่มขืนและฆ่า แน่นอนว่าการพรากชีวิตผู้อื่นควรได้รับโทษอันสูงสุดเช่นกันซึ่งเป็นกรณีเดียวกับน้องแก้ม (ข่าวข่มขืนและฆ่าบนรถไฟปี 2014) โทษควรเป็นโทษสูงสุดซึ่งกรณีนี้ผมเห็นด้วยกับการประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหรืออะไรก็แล้วแต่ กรณีนี้ให้จำคุกลอดชีวิตนั้นอยากให้เป็นโทษที่ควรเอาไว้เป็นทางออกสุดท้ายที่สุด (เพราะเดี๋ยวก็มีลดหย่อนมาอีก)

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือความคิดส่วนตัวนะครับให้มองในมุมที่กว้างขึ้น
นักโทษที่จะข่มขืน ไม่ใช่ทุกคนที่ลงมือฆ่า แต่หากโทษมีค่าเท่ากันจะทำให้โอกาสของผู้ที่ถูกข่มขืนนั้นมีโอกาสรอดชีวิตนั้นแทบจะกลายเป็น 0% จากที่อาจจะมีแค่ไม่กี่เปอร์เซนต์

หลายคนอาจจะบอกว่าการถูกข่มขืนนั้นไม่ต่างอะไรกับการถูกฆ่าทั้งเป็น ใช่ครับแต่การไม่เหลือชีวิตไว้เลยนั้นก็อาจไม่ใช่สิ่งที่คนถูกข่มขืนทุกคนเลือกจะเป็นเช่นกันเพราะงั้นกฎหมายถ้าจะออกจริงๆควรต้องแยกเพื่อรักษาเปอร์เซนต์ของการรอดชีวิตของผู้ที่ถูกข่มขืนด้วย



จริงครับที่ประเทศไทยกฎหมายอ่อนมาก


กฎหมายเมืองไทยอ่อนเกินไป ขั้นต่ำที่สุดในการข่มขืนก็แค่จำคุกซึ่งนั่นไม่เพียงพอ ไม่งั้นเด็กไม่กี่ขวบคงไม่มองว่าเป็นเรื่อง "ช่างมัน" แล้วก็เกิดข่าวแล้วข่าวเล่า เด็ก 10 ขวบบ้างละ เด็ก 13 ขวบบ้างละ อายุแค่นั้นก็ไม่รู้จักเกรงกลัวอะไรกันแล้ว


By:NICKY

No comments:

Post a Comment