ถือว่าเป็นการเปิดมุมมองอีกแง่นึงในฐานะคนดูละคร(บางเรื่อง)
เนื้อหาดีๆที่ควรอ่าน ความคิด มุมมอง ที่ถูกยัดเยียนผ่านละครไทยด้วยสายตาคนดู
ในขณะที่ทุกคนสะใจที่ตัวละครร้ายคนนึงกำลังถูกตัดสินแปลว่าภายใต้ในจิตใจเราเองในตอนนั้น
มีความคิดที่ยอมรับว่า "การถูกลงโทษด้วยการข่มขืนมันเหมาะสมแล้ว".......
ปล.ต้องขอบคุณผู้เขียนบทความนี้ เชื่อว่าหลายคนก็อาจมีความคิดคล้ายกันแต่ไม่ได้เอามาวิเคราะห์และคิดถึงผลกระทบที่มันค่อยๆฝังรากเข้ามาในจิตใต้สำนึกผู้ชม
แต่เมื่อได้เอามาชำแหละทีละท่อนๆทีละข้อก็ทำให้มุมมองมันกว้างขึ้นและกระจ่างขึ้น ปล.ผมไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ _"_ แต่เห็นแฟนเปิดก็มีผ่านๆเข้าหูมาหลายประโยคหลายบทอยู่
เครดิตผู้เขียนจากเว็บนี้ครับ https://medium.com/p/642abc460495
ผมขอยกเนื้อหามาให้ในนี้ได้อ่านกันนะครับพอดีเพื่อนผมบางคนที่อยู่ ตปท.บอกเปิดเว็บเขาแล้วโหลดไม่ขึ้น เลยคิดว่าน่าจะป็นบางประเทศ
ใครเป็นคนข่มขืนสายน้ำผึ้งกันแน่
หรือสามีตีตราจะเป็นละครเชิดชู rape culture แห่งปี
(เอาจริงๆ ตอนแรกว่าจะเลิกดูละครเรื่องนี้แล้ว เพราะรำคาญคุณนายพวงหยก
แต่เห็นประเด็นเรื่องสายน้ำผึ้งเมื่อคืนเลยขอเขียนถึงซักหน่อย
คือ ลงทุนไปไล่หาดูฉากนี้ฉากเดียวเลยนะ /แต่ดูจนเกือบจบ)
แต่เห็นประเด็นเรื่องสายน้ำผึ้งเมื่อคืนเลยขอเขียนถึงซักหน่อย
คือ ลงทุนไปไล่หาดูฉากนี้ฉากเดียวเลยนะ /แต่ดูจนเกือบจบ)
เข้าใจว่าในฉากที่ว่า สายน้ำผึ้งไปเลี้ยงข้าวลูกค้า ซึ่งระหว่างการคุยกันกรุบกริบๆ ข้ามหัวแก้วไวน์
นางใส่จริตของนางไปด้วย แล้วทีนี้ลูกค้าเมาชะ? เอาไปส่งที่ห้องชะ? แล้วลูกค้าพยายามข่มขืนนางชะ?
แล้วลูกค้าบอกนางว่า “ถ้าคุณไม่ได้มาเพื่อให้ความสุขผม คุณจะแต่งตัวซะสวยทำไม
คุณจะอ่อยผมทำไม” /ประมาณนี้ แล้วดั่งแหวกเมฆ พอบอกปุ๊บว่าสายน้ำผึ้งอ่อย
ลูกค้าตัวประกอบคนนี้มีความชอบธรรมในการข่มขืนสายน้ำผึ้งในสายตาคนดูทันที
นางใส่จริตของนางไปด้วย แล้วทีนี้ลูกค้าเมาชะ? เอาไปส่งที่ห้องชะ? แล้วลูกค้าพยายามข่มขืนนางชะ?
แล้วลูกค้าบอกนางว่า “ถ้าคุณไม่ได้มาเพื่อให้ความสุขผม คุณจะแต่งตัวซะสวยทำไม
คุณจะอ่อยผมทำไม” /ประมาณนี้ แล้วดั่งแหวกเมฆ พอบอกปุ๊บว่าสายน้ำผึ้งอ่อย
ลูกค้าตัวประกอบคนนี้มีความชอบธรรมในการข่มขืนสายน้ำผึ้งในสายตาคนดูทันที
…
ถ้าให้ว่ากันตรงๆ ละครไทยจะมีองค์ประกอบของการข่มขืนอยู่ตลอดนะ พระเอกข่มขืนนางเอกบ้าง
(อย่ามาแอ๊บเรียกว่า hatesex มันไม่ใช่) ตัวร้ายข่มขืนนางเอกบ้างและตัวร้ายโดนข่มขืนโดย
ตปก. (ตัวประกอบ) บ้าง คุณอาจจะพูดว่ามันเป็นละคร แบบนี้มันดราม่า มันแซ่บดี
แต่คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าคุณซึมซับอะไรมา
(อย่ามาแอ๊บเรียกว่า hatesex มันไม่ใช่) ตัวร้ายข่มขืนนางเอกบ้างและตัวร้ายโดนข่มขืนโดย
ตปก. (ตัวประกอบ) บ้าง คุณอาจจะพูดว่ามันเป็นละคร แบบนี้มันดราม่า มันแซ่บดี
แต่คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าคุณซึมซับอะไรมา
rape culture หมายถึงวัฒนธรรมที่สนับสนุน มองผ่าน หรือแก้ต่างการข่มขืนรวมทั้งมองว่า
การข่มขืนเป็นเรื่องปกติหรือมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ทั้งยังครอบคลุมไปถึงการโทษเหยื่อที่ถูกข่มขืน
และ sexual objectification ด้วย /ตัวอย่างของ sexual objectification หาได้ง่ายๆ บนปก FHM
บนแผงหนังสือในเซเว่นใกล้บ้านท่าน (“Rape Culture”. Wikipedia)
การข่มขืนเป็นเรื่องปกติหรือมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ทั้งยังครอบคลุมไปถึงการโทษเหยื่อที่ถูกข่มขืน
และ sexual objectification ด้วย /ตัวอย่างของ sexual objectification หาได้ง่ายๆ บนปก FHM
บนแผงหนังสือในเซเว่นใกล้บ้านท่าน (“Rape Culture”. Wikipedia)
ถึงเวลารึยังที่จะตระหนักถึง rape culture?
ในละครไทยที่มีการข่มขืนอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมการข่มขืนนี้
คือไม่ได้บอกว่าละครไทยกำลังบอกยูวว่า “เฮ้ มาข่มขืนกันเถอะยูว” แต่กำลังบอกว่า
“การข่มขืนมันปกติ” “การข่มขืนเป็นการลงโทษที่เหมาะควรแล้วสำหรับผู้หญิงที่ทำตัวนอกลู่นอกทาง”
หรือกระทั่ง “การข่มขืนคือความรัก”
คือไม่ได้บอกว่าละครไทยกำลังบอกยูวว่า “เฮ้ มาข่มขืนกันเถอะยูว” แต่กำลังบอกว่า
“การข่มขืนมันปกติ” “การข่มขืนเป็นการลงโทษที่เหมาะควรแล้วสำหรับผู้หญิงที่ทำตัวนอกลู่นอกทาง”
หรือกระทั่ง “การข่มขืนคือความรัก”
เมสเซจที่ว่า “การข่มขืนคือความรัก” นี่ก็เป็นเทรนด์ที่สิงสู่ละครไทยนานเหมือนกันนะ
พวก trope ที่พระเอกข่มขืนนางเอกแล้วรักกัน … ถามจริง
ยูวเป็นนางเอกยูวจะเอาคนที่ข่มขืนยูวเป็นสามีจริงๆ เหรอ
พวก trope ที่พระเอกข่มขืนนางเอกแล้วรักกัน … ถามจริง
ยูวเป็นนางเอกยูวจะเอาคนที่ข่มขืนยูวเป็นสามีจริงๆ เหรอ
อันที่จริง สามีตีตราก็มี trope นี้เหมือนกัน คือ ศิวา ขอบอกตรงๆ ว่าเกลียดศิวาตั้งแต่มันออก
คือ จุดนี้ศิวายังไม่ได้ act out การข่มขืนก้อยจริงๆ แต่ถ้ามาลองคิดดู
สิ่งที่ศิวาทำคือการข่มขืนในรูปแบบหนึ่งรึเปล่า คำพูดของศิวาก่อนได้เป็นแฟนก้อยมักจะพูดซ้ำๆ ว่า
จะเอาก้อยเป็นแฟนให้ได้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากได้ก้อยก็ต้องได้
ถึงขั้นขอพ่อตัวเองขอแม่ก้อยแต่งงานกับก้อย (แล้วคนแม่ก็อนุญาตไง)
ก้อยจะไปเมืองนอกก็ไม่ให้ไป คือทั้งหมดนี้น่ะ ก้อยไม่ได้มีความเห็นชอบอะไรใดๆ เลย
และศิวาไม่เคยถามความเห็นชอบใดๆ จากก้อยเลย
คือ จุดนี้ศิวายังไม่ได้ act out การข่มขืนก้อยจริงๆ แต่ถ้ามาลองคิดดู
สิ่งที่ศิวาทำคือการข่มขืนในรูปแบบหนึ่งรึเปล่า คำพูดของศิวาก่อนได้เป็นแฟนก้อยมักจะพูดซ้ำๆ ว่า
จะเอาก้อยเป็นแฟนให้ได้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากได้ก้อยก็ต้องได้
ถึงขั้นขอพ่อตัวเองขอแม่ก้อยแต่งงานกับก้อย (แล้วคนแม่ก็อนุญาตไง)
ก้อยจะไปเมืองนอกก็ไม่ให้ไป คือทั้งหมดนี้น่ะ ก้อยไม่ได้มีความเห็นชอบอะไรใดๆ เลย
และศิวาไม่เคยถามความเห็นชอบใดๆ จากก้อยเลย
แล้วศิวาก็เคลมกันว่ามันรักก้อย /หึ
กลับมาที่สายน้ำผึ้งก่อนเถอะ
สายน้ำผึ้งชีเป็นชะนีย์ที่ manipulate และซาดิสต์นะว่าไป แต่ฟีเจอร์เด่นๆ ของนางโพสต์ภูเบศน์คือ
นางใช้เรือนร่างและความเป็นผู้หญิงของนางเป็น หรือที่เรียกกันว่า “อ่อย” คือก็ยอมรับแหละ
ว่านางอ่อยไปทั่ว อยากได้ผู้ชายของชาวบ้านเหลือเกิน แต่ประเด็นแย่งสามีชาวบ้านกับแบ็คสตอรี่นาง
เราไม่ขอพูดถึง
นางใช้เรือนร่างและความเป็นผู้หญิงของนางเป็น หรือที่เรียกกันว่า “อ่อย” คือก็ยอมรับแหละ
ว่านางอ่อยไปทั่ว อยากได้ผู้ชายของชาวบ้านเหลือเกิน แต่ประเด็นแย่งสามีชาวบ้านกับแบ็คสตอรี่นาง
เราไม่ขอพูดถึง
ดังที่บอกไปข้างต้นว่า เมสเซจหนึ่งที่ละครมักจะส่งมาคือ “การข่มขืนเป็นการลงโทษที่เหมาะควรแล้ว
สำหรับผู้หญิงที่ทำตัวนอกลู่นอกทาง” คือ เราต้องมาพูดถึง binary opposition ของผู้หญิงนิดนึง
ในละครไทยจะเห็นความตรงกันข้ามของผู้หญิงสองประเภทอย่างชัดเจนมาก นางเอกต้องเป็น virgin
ต้องเรียบร้อย ต้องหัวอ่อน ต้องรักนวลสงวนตัว ส่วนนางร้ายจะต้องเป็น slut มี sex appeal สูงๆ
แข็งกร้าว วีน โน่นนี่ สายน้ำผึ้งเป็นตัวร้ายก็ต้องเป็นแบบหลังนี่แหละ
สำหรับผู้หญิงที่ทำตัวนอกลู่นอกทาง” คือ เราต้องมาพูดถึง binary opposition ของผู้หญิงนิดนึง
ในละครไทยจะเห็นความตรงกันข้ามของผู้หญิงสองประเภทอย่างชัดเจนมาก นางเอกต้องเป็น virgin
ต้องเรียบร้อย ต้องหัวอ่อน ต้องรักนวลสงวนตัว ส่วนนางร้ายจะต้องเป็น slut มี sex appeal สูงๆ
แข็งกร้าว วีน โน่นนี่ สายน้ำผึ้งเป็นตัวร้ายก็ต้องเป็นแบบหลังนี่แหละ
แล้วลงโทษทำไม ลงโทษไปเพื่ออะไร คือในงานวรรณกรรมมันจะมีสิ่งที่เรียกว่า poetic justice
ทำดีได้ดี ทำชั่วต้องถูกลงโทษ มันก็เชิงว่าเป็นการสอนกลายๆ น่ะแหละ
ทำดีได้ดี ทำชั่วต้องถูกลงโทษ มันก็เชิงว่าเป็นการสอนกลายๆ น่ะแหละ
ทีนี้ การข่มขืนสายน้ำผึ้ง (โอเค มันยังไม่เกิด แต่มันก็เกือบเกิดใช่มั๊ยล่ะ) เป็นเหมือน “การลงโทษ”
นางที่นาง “อ่อยผู้ชาย” ซึ่งไม่ใช่แต่ตปก.ลูกค้านาง แต่รวมถึงพิศุจน์กับศิวาด้วย
ขอไม่พูดต่อเรื่องที่พิศุจน์วิ่งมาช่วยอย่างรวดเร็วให้นางรอดพ้นมาได้
แต่ขอข้ามไปหลังจากที่นางรอดมาแล้ว สิ่งที่นางพูดคือ
นางที่นาง “อ่อยผู้ชาย” ซึ่งไม่ใช่แต่ตปก.ลูกค้านาง แต่รวมถึงพิศุจน์กับศิวาด้วย
ขอไม่พูดต่อเรื่องที่พิศุจน์วิ่งมาช่วยอย่างรวดเร็วให้นางรอดพ้นมาได้
แต่ขอข้ามไปหลังจากที่นางรอดมาแล้ว สิ่งที่นางพูดคือ
“ผึ้งไม่อยากแจ้งตำรวจ ผึ้งอาย ผึ้งไม่อยากให้ใครรู้ไปมากกว่านี้ ถ้าใครรู้
เค้าไม่คิดกันหรอกว่าผึ้งจะถูกปล้ำ เค้าคิดกันทั้งนั้นแหละว่าผึ้งจะจับผู้ชายเอาเงิน”
เค้าไม่คิดกันหรอกว่าผึ้งจะถูกปล้ำ เค้าคิดกันทั้งนั้นแหละว่าผึ้งจะจับผู้ชายเอาเงิน”
ถ้าละครไทยเคลมว่าสะท้อนสังคม ประโยคนี้แหละค่ะที่ยูวสะท้อนสังคมจริงๆ
เอาจริงๆ มีไม่น้อยที่เหยื่อข่มขืนในชีวิตจริงไม่ยอมไปแจ้งความเพราะอาย แถมพอแจ้งความแล้ว
สิ่งที่เค้าได้รับไม่ใช่ความยุติธรรมเพียงอย่างเดียวเขาถูกสังคมตัดสินไปต่างๆ นาๆ ถูกสังคมกล่าวโทษ
ถูกตราหน้า โน่นนี่นั่น คือมันเยอะอ่ะ เยอะจนแบบคนที่ข่มขืนมันติดคุกยังอยู่สบายกว่า
แต่เหยื่อต้องอยู่กับบาดแผลทางจิตใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็ทนกับคนที่ไม่เข้าใจและโทษเหยื่อ
สิ่งที่เค้าได้รับไม่ใช่ความยุติธรรมเพียงอย่างเดียวเขาถูกสังคมตัดสินไปต่างๆ นาๆ ถูกสังคมกล่าวโทษ
ถูกตราหน้า โน่นนี่นั่น คือมันเยอะอ่ะ เยอะจนแบบคนที่ข่มขืนมันติดคุกยังอยู่สบายกว่า
แต่เหยื่อต้องอยู่กับบาดแผลทางจิตใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็ทนกับคนที่ไม่เข้าใจและโทษเหยื่อ
ปฏิกริยาคนดูต่อการข่มขืนสายน้ำผึ้ง
คือ บังเอิญว่ารูปหนึ่งของ drama-addict เด้งขึ้นมาในนิวฟีดส์ ในรูปนี้คือยูสเซอร์คนหนึ่ง
แสดงความสะใจที่สายน้ำผึ้ง (เกือบ) โดนข่มขืน คุณจ่าก็บอกว่าแม้สายน้ำผึ้งไม่ดียังไง
นางก็ไม่ควรโดนข่มขืนนะ
แสดงความสะใจที่สายน้ำผึ้ง (เกือบ) โดนข่มขืน คุณจ่าก็บอกว่าแม้สายน้ำผึ้งไม่ดียังไง
นางก็ไม่ควรโดนข่มขืนนะ
คอมเมนต์ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นคือ ออกมาชี้แจงกับจ่าว่า “สายน้ำผึ้งอ่อยเค้าก่อนนะ” /
คนที่ออกมาเห็นด้วยกับจ่าก็มี /คนที่บอกว่าเครียดทำไมแค่ละคร … ก็มี
คนที่ออกมาเห็นด้วยกับจ่าก็มี /คนที่บอกว่าเครียดทำไมแค่ละคร … ก็มี
เท่าที่เห็น ฉากพยายามข่มขืนสายน้ำผึ้งกินเวลานานมาก คิดว่าคงจงใจเร้าผู้ชมให้รู้สึกลุ้นระทึก
ไปกับฉากนี้ … มองในแง่นึงคือ ผู้ชมเป็น witness ของการพยายามข่มขืนครั้งนี้
แล้วสิ่งที่ผู้ชมได้คืออะไร ไม่ใช่รู้สึกกังวล แต่คือความสะใจใช่รึเปล่า คือเรานั่งดูแล้วคิดกันใช่มั๊ยว่า
สมน้ำหน้า สมควรโดนแล้ว และมีความสุขกับการเห็นสายน้ำผึ้งโดนชำเรา
ไปกับฉากนี้ … มองในแง่นึงคือ ผู้ชมเป็น witness ของการพยายามข่มขืนครั้งนี้
แล้วสิ่งที่ผู้ชมได้คืออะไร ไม่ใช่รู้สึกกังวล แต่คือความสะใจใช่รึเปล่า คือเรานั่งดูแล้วคิดกันใช่มั๊ยว่า
สมน้ำหน้า สมควรโดนแล้ว และมีความสุขกับการเห็นสายน้ำผึ้งโดนชำเรา
จุดนี้ ละครไม่ได้สะท้อนสังคม จุดนี้ละครกำลังบอกว่า นี่คือการลงโทษอันชอบธรรม
แล้วปฏิกริยาของคนดูคือ ยอมรับว่าการข่มขืนผู้หญิง category slut เป็นสิ่งที่เกิดเป็นปกติ
และชอบธรรมด้วย เพราะเธอรนหาที่เอง สายน้ำผึ้งถูกคนเขียนบทวางเธอไว้ในสถานการณ์
ที่เกือบถูกข่มขืนเพื่อเป็นการสั่งสอนผู้หญิงแบบสายน้ำผึ้งให้ไม่ทำตัวอย่างที่สายน้ำผึ้งทำ
เพื่อสั่งสอนว่าถ้าทำตัวแร่ดก็จะถูกข่มขืน
แล้วปฏิกริยาของคนดูคือ ยอมรับว่าการข่มขืนผู้หญิง category slut เป็นสิ่งที่เกิดเป็นปกติ
และชอบธรรมด้วย เพราะเธอรนหาที่เอง สายน้ำผึ้งถูกคนเขียนบทวางเธอไว้ในสถานการณ์
ที่เกือบถูกข่มขืนเพื่อเป็นการสั่งสอนผู้หญิงแบบสายน้ำผึ้งให้ไม่ทำตัวอย่างที่สายน้ำผึ้งทำ
เพื่อสั่งสอนว่าถ้าทำตัวแร่ดก็จะถูกข่มขืน
และถ้าผู้ชมดีเฟนด์ตัวเองว่าแยกออกว่าการข่มขืนในละครกับในชีวิตผู้ชมมองต่างกัน
ขอให้ผู้ชมถามตัวเองว่าเวลาได้ยินข่าวข่มขืน ความคิดแรกของคุณคือ “เหยื่อแต่งตัวโป๊รึเปล่า”
หรือ “ผู้หญิงมันต้องอ่อยผู้ชายสิ ไม่งั้นผู้ชายไม่ทำหรอก”
นั่นหมายความว่าปฏิกริยาที่มีต่อการข่มขืนในชีวิตจริงของคุณไม่ต่างจากปฏิกริยาที่คุณมี
ต่อการข่มขืนในละครหรอก
ขอให้ผู้ชมถามตัวเองว่าเวลาได้ยินข่าวข่มขืน ความคิดแรกของคุณคือ “เหยื่อแต่งตัวโป๊รึเปล่า”
หรือ “ผู้หญิงมันต้องอ่อยผู้ชายสิ ไม่งั้นผู้ชายไม่ทำหรอก”
นั่นหมายความว่าปฏิกริยาที่มีต่อการข่มขืนในชีวิตจริงของคุณไม่ต่างจากปฏิกริยาที่คุณมี
ต่อการข่มขืนในละครหรอก
การข่มขืนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และไม่ใช่การลงโทษที่ใครควรจะได้รับ
/จบ
/จริงๆ เหมือนยังครอบคลุมมิติอื่นๆ ของ rape culture ไม่ครบ แต่เอาแค่นี้ก็งงเองแล้ว
/ไม่ได้เขียนอะไรยาวๆ แบบนี้นานแล้ว
/อุทิศเวลาทำธีสิสมาบ่น
/ไม่ได้เขียนอะไรยาวๆ แบบนี้นานแล้ว
/อุทิศเวลาทำธีสิสมาบ่น
------------------------------------------------------------
ปล. ขอขอบคุณเนื้อหาผู้เขียนอีกครั้งครับ