FTM Top Surgery


Transgender Surgery FTM Top Surgery ® (Female To Male Transgender Chest Surgery)

 พอดีมีคนถามหลายคนเลยพิมพ์อธิบายหลักๆไว้ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็ถามได้นะ
(มีรูปการผ่าตัดหลายแบบแต่ไม่สะดวกที่จะลงไว้ที่นี่ครับยังไงหลังไมค์ดีกว่าเนอะ)
LINE = damnboiz
WhatsApp = ใน Comment
or Mail นะครับ = damnboiz@gmail.com

สาเหตุที่ต้องตัดหน้าอกจริงๆแล้วต้องแบ่งเป็น2ประเภทสิ

สำหรับคนที่หน้าอกใหญ่ไม่มีความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าแต่ไม่ได้ต้องการเป็นผู้ชายหรือแปลงเพศ
และอีกกรณีคือ FTM ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าปลายทางคือการเป็นเพศชาย
แต่ในกรณีนี้จะกล่าวถึงด้วยเรื่องฮอร์โมนเป็นหลักนะครับ

และการผ่าผมยกตัวอย่างแค่ 2 แบบนะครับคือ Double Incision และ Peri-areolar or Keyhole
Double Incision = การผ่าที่เต้านม (สำหรับคนที่มีหน้าอกขนาดกลางหรือขนาดใหญ่คัพC)จะมีแผลที่ใหญ่ครึ่ง-1คืบ
Peri-areolar or Keyhole = การผ่าที่ใต้ปานนม (สำหรับคนหน้าอกเล็ก คัพA)แผลจะเล็กมาก 1นิ้ว
(สำหรับรูปภาพหลังผ่าตัดหลังไมค์น่ะครับ)

1. การฉีดฮอร์โมนเป็นตัวเร่งมะเร็งแต่ไม่ได้เป็นตัวก่อมะเร็งโดยตรง
แต่ต่อให้เรามีขนาดหน้าอกที่เล็กขนาดไหนก็แล้วแต่ แต่เราก็คือผู้หญิงเราจะมีเต้านมข้างในเล็กๆอยู่ จุดนั้นแหละคือตัวที่จะเป็นมะเร็งทั้งผู้หญิงและชายมีโอกาสเป็นมะเร็งทุกคนไม่ว่าเราจะใช้ฮอร์โมนหรือไม่เพียงแต่ฮอร์โมนมันเร่งให้เป็นมากขึ้น+ไวขึ้น
ผู้ชายมีเนื้อที่หน้าอกชั้นเดียว ผู้หญิงมีเนื้อที่หน้าอก2ชั้นคือชั้นในและชั้นนอก(เต้านม)เวลาหมอตัดออกหมอจะตัดออกเฉพาะชั้นนอก(เต้านม)เราก็จะเหลือแต่เนื้อชั้นใน ซึ้งแปลว่าเราเองก็อาจเป็นมะเร็งที่เนื้อหน้าอกแบบผู้ชายได้อีกแต่โอกาสน้อยมาก
ส่วนมะเร็งเต้านมจราจะไม่มีโอกาสเป็นเพราะเอาออกไปหมดแล้ว(ตัดไฟต้นลม)
จริงๆตัวผมเองเป็นคนหน้าอกเล็กมากเพราะเล่นกล้ามเน้นหน้าอกอยู่แล้วทำให้หน้าอกแข็งและเรียบเหมือนหน้าอกชาย
หมอก็บอกเสียดายแต่ถ้าไม่เอาออกซักวันก๊ต้องเอาออกเพราะมะเร็งและก็จะเสียดายมากกว่านี้เพราะคงสร้างกล้ามเนื้อไปเยอะแล้วหนะ ตัดตอนนี้แล้วเอาเวลาที่เหลือไปสร้างกล้ามเนื้อดีกว่า

2. เราใช้ฮอร์โมนระดับที่ถือว่าสูงเพราะยังมีรังไข่อยู่ทำไห้ฮอร์โมนชายและหญิงต้านกันอยู่
แปลว่าถ้าเราฉีดในปริมาณ250mg/1ml ทุกๆ2สัปดาห์เราจะได้รับไม่เต็มที่อาจได้เพียง 150 เลยทีเดียว
แต่ถ้าเราตัดรังไข่+มดลูกออกเราจะไม่มีตัวต้านฮอร์โมน เราจะลดขนาดใช้แค่เพียง0.25ml/250mg. แทนซึ่งเป็นการทำลายตับน้อยลงกว่าเดิมหลายเท่าตัว (ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน วันก่อนที่ไปเจอหมอที่จุฬาก็เจอFTM คนหนึ่งมาหาหมอและตรวจพบว่าตับเป็นพิษ
ใช้ฮอร์โมนฉีดไปแค่2ครัังเอง บางคนใช้5ปียังไม่เป็นไรเลยก็มี) เลยต้องตรวจเลือดอยู่บ่อยๆทุกๆ2/3เดือน
การที่เราตัดรังไข่+มดลูกออกไปเราจะต้องฉีดฮอร์โมนไปตลอดชีวิตแต่จะว่าไปก็ไม่ต่างจากปัจจุบันเพราะปัจจุบันก็ฉีดไปตลอดอยู่แล้ว

3.สาเหตุที่เลือกผ่ากับหมอที่ยันฮี
เรามากล่าวถึงหมอท่านแรกกันก่อนดีกว่าคือหมอที่จุฬา จริงๆแล้วไปปรึกษาหมอที่จุฬามา1คนเป็นระดับดร. ฝีมือดี (แปลงเพศให้กับ FTMถึงประเทศสวีเดนเลย)
ราคาไม่แพงเลยเพระผ่าที่รพ.จุฬาแต่ปันหาอยู่ที่มันป็นโรงพยาบาลรัฐบาล เราจะได้นอนห้องรวม พยาบาลดูแลไม่ดี และห้ามคนเฝ้าเกิน2ทุ่ม และการผ่าตัดหน้าอกออกมันจะระบมและอาการหนักกว่าการเสริมหน้าอกมาก

เราต้องมีถุงระบายเลือดตลอดที่พักฟื้นที่รพ. และการนอนห้องรวมโดยที่เข้าห้องน้ำรวมจะลำบากมากเนื่องจากเราไม่สามารถลุกเองได้เตียงของ รพ.จุฬาเป็นเตียงธรรมดาไม่ใช่ไฟฟ้าการลุกเราจะเกร็งด้านหน้าท้องและหน้าอกการลุกบ่อยจึงไม่ใช่เรื่องดี
แต่จะไม่ให้ลุกไปฉี่เลยคงไม่ได้แถมหลังผ่าตัดใหม่ๆเราจะปวดฉี่บ่อยมากเนื่องจากหมอให้น้ำเกลือ 2ถุงและถุงยาแก้อักเสบที่แขวนคู่กับถุงน้ำเกลืออีกราคาที่รพ.จุฬาคิดแค่ 30000 บาท ไม่เกิน45000บาท (ไม่ว่าจะไซค์ Cก็ตามไม่เกินนี้ครับ) ที่จริงสามารถให้หมอคนนี้ผ่าที่อื่นได้แต่ราคาค่าตัวอจะแพงมาก
(สมิติเวชคิด 200000 บ., รพ.กรุงเทพ 150000 บ., ปิยเวช 80000 บ. ราคาที่กล่าวมานี่คือราคาของคุณหมอจุฬาถ้าจะผ่าที่อื่นนะครับ)

พอมาปรึกษาและหาข้อมูลเพิ่มจากเพื่อนและก็คนที่เคยทำกับที่นี่ก็ทราบว่ามีหมออีกท่านที่ยันฮีซึ่งผ่าตัดแปลงเพศเฉพาะFTM (ญเป็นช)และฝีมือดีที่สุดในไทย ณ ตอนนี้ พอได้มาคุยกับหมอก็รู้สึกสบายใจขึ้น ท่านได้เปิดคอมให้ดูภาพแผลและวิธีการผ่าตัดในคอมจากผลงานที่เคยผ่านมาทำให้พอใจมากๆพอเดินดูห้องคนป่วยทั้งแถบเป็นชื่อหมอคนนี้เกือบหมดเลย คนจีนและฮ่องกงเหมาแพคเกจแปลงเพศโดยเฉพาะกับหมอท่านนี้เลยหมอท่านนี้ผ่าตัดขั้นที่1 ทุก จันทร์-พฤ และผ่าขั้น2-3 ทุกวันเสารละอาทิตย์ แต่คิวผ่าตัดขั้นที่3ของคุณหมอเต็มแล้วยาวไปถึงปีหน้ากลางปีเลย

แต่ละขั้นของการแปลงเพศ
(ขั้นที่1 = ตัดหน้าอก > รังไข่ > มดลูก) (เราเลือกผ่าอย่างใดอย่างหนึ่งได้ครับถือว่าอยู่ในขั้นที่1)
(ขั้นที่2 = ต่อท่อปัสสวะให้ยื่นออกมาเป็นแนวตรงและเย็บปิดช่องคลอด+สร้างลูกอัณฑะ)
(ขั้นที่3 = เอาเนื้อที่เพาะมาหุ้มและต่อให้เป็นอวัยวะเพศชายยื่นออกมาให้ใช้งานได้)
(ระยะการทำขั้นที่3จะสมบูรณ์ในระยะ 2ปี)

ตั้งแต่มาผ่าตัดรู้สึกว่าคิดไม่ผิดเลยที่ผ่าที่ยันฮี พยาบาลดูแลดีมาก มาตรวจความดัน+ไข้ทุกๆ 2ชม. กดสวิชเรียกพยาบาลได้ตลอดและเรียกปุ๊ปมาปั๊ป
เช็ดตัวให้ทุกครั้งที่เรารีเควสอีกต่างหาก แถมเตียงเป็นเตียงไฟฟ้าเรากดสวิชได้ตลอด (หลังผ่าตัดเราจะแทบไม่อยากขยับตัวแต่ในการที่นอนทับหลังตัวเองเฉยๆแบบนี้จะทำให้เกิดอาการหลังชาเป็นเหน็บและเมื่อยง่ายดังนั้นการบริหารตัวเองให้เลือดไหลเวียนได้ทุกส่วนของร่างกายคือการกดสวิชเปลี่นยท่านั่งครับ)

หลังผ่าตัดเราจะมีอาการข้างเคียงจากยาสลบแต่ละคนเป็นไม่เหมือนกันนะ
ปวดหัว = รอยาสลบหมดฤทธิ์ก็หาย(เราไม่เป็น)
อาเจียน = รอยาสลบหมดฤทธิ์ก็หาย(เราไม่เป็น)
เพลีย = เราไม่เป็น ตื่นปุ๊ปคุยจ้อเดินได้เลยช้าหน่อยแต่ลุกเดินได้ไม่หน้าทิ่ม
ฉี่ไม่ออก = อันนี้เป็นคือจะฉี่ได้น้อยมากแม้จะปวดฉี่มากหมอบอกยาสลบจะทำให้กล้ามเนื้อไม่คลายตัวเราจะบังคับการบีบตัวกระเพาะปัสสวะไม่ได้ทำให้ฉี่ไม่ค่อยออก เลยต้องลุกทุกๆ1/2ชม. เพื่อนั่งห้องน้ำ (คิดดูถ้าอยู่จุฬาคงลุกไม่ไหวเพราะไม่ได้นอนเตียงไฟฟ้านะ แถมห้องน้ำก็ห้องรวมด้วยที่จุฬา นี่นอนเตียงไฟฟ้ากดสวิชช่วยพยุงนั่งได้ตลอดเอง) ลิ้นไก่อักเสบ = โดนคิ้วที่ใส่สายช่วยหายใจระหว่างผ่าตัด เจ๊บคอโคตรแต่หมอบอกเดี๊ยวก็หาย


ผมผ่าแบบ Keyhole เพราะหน้าอกเล็กแผลจะยาวประมาณ 1นิ้ว เนื่องจากเป็นคนหน้าอกเล็กมากมากกว่าคัพA ราคาอยู่ที่ 58000 บ. (หมอจะลดราคาให้)
แต่ถ้าหน้าอกใหญ่กว่านี้จะได้ราคามาตรฐานคือ 65000 บ.
(ราคาพวกนี้เป็นราคาแพ็คเกจคือรวมค่ายา+ตรวจเลือด+ผ่าตัด+นอน รพ.ห้อง VIP 2คืน + อาหาร)
โดยส่วนตัวประทับใจที่ยันฮีมากๆและก็คิดว่าเกิดมาเราคงไม่ได้ผ่าบ่อยครั้งเดียวเอาให้ปลอดภัยและไม่วุ่นวายดีกว่า
(เหตุผลส่วนตัวนะพอดีพ่อของเพื่อนแม่ที่มาเยี่ยมเข้ารพ.จุฬา แค่ไปถ่ายเลือดแต่กลับคิดเชื้อในกระแสเลือดตาย
ส่วนภรรยาหมอจ่ายยาให้ผิดมา2เดือนทำให้เกิดการรักษาผิด เลยต้องมารักษาต่อที่รพ.เอกชนหมดไป3ล้านกว่าแล้ว และฟ้องร้องหมอได้เงินมาแค่ 2แสนเอง)

รพ.ยันฮีหมอให้เซ็นเอกสารใบรับประกันตามปกติคือ6เดือนเรื่องแผล ถ้าอักเสบ/ บวม/ เน่า/หัวนมหลุด หรือมีปันหาทำให้ต้องแก้ไขจะทำฟรีในระยะ6เดือน

เรื่องการรักษาที่รพ.ยันฮีหลังผ่าตัด
พักรพ.3วัน, และ7วันหลังผ่าต้องมาตัดไหม หลังจากนั้นรัดผ้าอีก1เดือนเพื่อให้แผลสมานกันครับ
บางที่อาจจะเห็นว่าไม่ได้เน้นเรื่องการรัดผ้าซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องซักเท่าไรจะอธิบายตามนี้น่ะครับ
การที่เราผ่าตัดเอาเนื้อข้างในออก คุณหมอจะทำการล้างข้างในเราด้วยน้ำเกลือ
และการที่เรารัดผ้ารัดหน้าอกนั้นมันเป็นการทำให้เนื้อที่ถูกตัดหายออกไปสมานกันไวขึ้นและไล่น้ำเกลือที่ตกค้างอยู่ภายในตัวเราไม่ให้ค้างอยู่ตามจุดต่างๆ
ผลถ้าเราไม่รัดบางรายจะทำให้หน้าอกมีขนาดไม่เท่ากันเนื่องจากการบวมและเนื่องจากมีน้ำเกลืออยู่ในร่างกายที่ล้างตกค้างไว้เราอยู่แนวตั้งจะทำให้น้ำเกลือนั้นไหลกองอยู่ที่เนื้อส่วนล่างเป็นเหตุให้มีรอยใต้เต้านมนูนๆครับ
หลายคนสงสัยตัดหน้าอกแล้วต้องใช้ฮอร์โมนไหม?
การตัดหน้าอกไม่เกี่ยวกับฮอร์โมนครับ
คุณต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณต้องการฮอร์โมนเพื่ออะไร?
ถ้าหากคุณต้องการฮอร์โมนแค่เพื่อให้ร่างกายดูมีกล้ามเนื้อหรือแค่แมนแล้วเสียงแตกผมว่าไม่ควรครับ
เนื่องจากผลกระทบของการใช้ฮอร์โมนมีมากกว่าผลลัพธ์ที่คุณอยากจะได้แน่นอนไว้มาอ่านลึกเรื่องฮอร์โมนอีกทีนะครับ
ถ้าเราไมได้มีจุดประสงค์อื่นในการรับฮอร์โมนแล้วละก็การตัดหน้าอกไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับภาวะขาดฮอร์โมนของเราเลยครับ
เพราะหน้าอกไม่ได้ผลิตฮอร์โมนแต่รังไข่นี่สิเป็นตัวผลิตฮอร์โมน

เรื่องความแมนมันอยู่ที่จุดประสงค์เราถ้าเราแพลนไว้ว่าปลายทางจะแปลงเพศแน่นอนเราต้องรับฮอร์โมนมาระยะหนึ่ง
แต่ก็ศึกษาผลกระทบจากฮอร์โมนด้วยถ้ารับไม่ได้ในเรื่องผลกระทบก็ไม่ควร
เพราะการรับฮอร์โมนจะต้องใช้ไปตลอดชีวิตหลังจากตัดรังไข่แล้วและการรับฮอร์โมนคือการฉีดไม่ใช่กินพวกที่กินจะเป็นแค่ในระยะสั้น
ได้ผลน้อยผลกระทบเยอะกว่าเนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงกับตับและไตแถมร่างกายดูดซึมใช้งานได้น้อยกว่าตัวยาที่กินลงไปทำให้เราต้องเพิ่มปริมาณครับ

เรื่องข้อดีข้อเสียจริงๆแล้วมันไม่มีผลกระทบทางด้านสุขภาพโดยตรงครับ
ส่วยมีข้อดีอะไรทางด้านไหนต้องถามที่ตัวเองก่อนว่าความต้องการของตัวเองคืออะไรมีจุดประสงค์หลักที่คิดจะตัดคืออะไรอะครับ

ขั้นตอนในการผ่าตัดที่ถูกวิธี (ย้ำนะครับ "ถูกวิธี")
เพราะมันมีการผ่าตัดตามคลีนิคทั่วไปด้วยซึ่งต้องชั่งน้ำหนักกันเองเอาเรื่องความปลอดภัยของตัวเองแล้วกันนะครับ
แต่สำหรับผมอย่างที่บอกครับผ่าตัดหน้าอกผมคงไม่ได้ทำหลายๆครั้งในชีวิตไหนๆก็ทำครั้งเดียวผมก็เอามันแบบตามกติกาเนี่ยแหละครับจะได้มีโอกาสพลาดน้อย
อีกอย่างมีหลายคนที่ผ่าจากที่อื่นๆบางจังหวัดก็ผ่ากันในคลีนิคกันซะเฉยๆสุดท้ายผ่าออกมาก็ไม่กล้าถอดเสื้อเล่นน้ำอยู่ดีเพราะแผลเป็นทีเด่นชัดทำให้เป็นเป้าสายตาคนทั่วไปอีกครับ
การตัดหน้าอกไม่เหมือนการทำจมูกนะครับที่จะแก้เข้าแก้ออกได้ แต่มันคือการตัดส่วนที่มีในร่างกายเราออกและไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ครับ

1.พบจิตแพทย์2ท่านขึ้นไปเพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจก่อนผ่าตัดเนื่องจากการผ่าตัดนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ ถ้าปัจจัย+สภาพแวดล้อมของเราไม่ผ่าน ก็จะไม่ผ่านด้านจิตแพทย์หนะครับ
พบจิตแพทย์ที่ยันฮีเรียบร้อยแล้ว ทำแบบทดสอบกันยาวนานเลยคนแรก 1 ชม.ครึ่ง คนที่สองพบไม่นานเท่าคนแรก แต่ได้ใบรับรองแพทย์ที่มีระยะเวลาแค่ 6 เดือน ซึ่งแปลว่าถ้าเราจะทำอะไรหลัง 6 เดือนนี้ก็มาพบใหม่ครับ
ราคา 1000 x 2 =2000 (ค่าพยาบาลอีก 120) แต่บริการดีมากกก พยาบาลเดินนำไปทำทุกอย่างแม้กระทั่งวิ่งเอกสารชำระเงิน
สรุปใบแพทย์จากจุฬาใช้กับยันฮีไม่ได้ และจากยันฮีใช้กับจุฬาไม่ได้

2.ถ้าผ่านแล้วก็พบหมอที่เราต้องการจะผ่า ศึกษาจากผลงานของหมอ+การเย็บแผลแต่ละคนไม่เหมือนกันความละเอียดต่างกันและขนาดแผลอยู่ที่รูปแบบการผ่าตัด และไซค์ของหน้าอกเราก็มีผลต่อวิธีการผ่าตัดครับ

ทีนี้เรามาคำนวนราคากันอย่างละเอียดน่ะครับ
1.วันแรกที่ไปพบกับจิตแพทย์ 2 ท่าน ( 1000x2 ) 2000 (ค่าพยาบาล 120)
2.วันที่คุณหมอนัดผ่าเราจะต้องเตรียมเงินมาจ่ายในราคาแพคเกจผ่าตัดคือ (58000 หรือ 65000 แล้วแต่ไซค์)
3.วันที่มาตัดไหมก็จะมีค่าใช้จ่ายในการตัดอยู่ที่ 100 เท่านั้น
4.เราจะได้ผ้ารัดหน้าอก(ที่กล่าวความสำคัญไว้ข้างต้น)มา1ผืน แต่เนื่องจากต้องรัดถึง1เดือนผมคงไม่ทนอับแน่ๆเลยซื้อเพิ่มอีกผืนคือ 600

สรุปทั้งหมดผมเสียค่าใช้จ่ายไป 60820 ฿.ครับ
ส่วนถ้าหน้าอกใหญ่ผมรวมราคาไว้ให้ไม่เกินนี้แน่ครับ 67220 ฿.ครับ
แต่ถ้าไปที่จุฬาค่าผ่าตัดอยู่ที่ 30000-45000฿ จริง
แต่คุณจะต้องเสียค่าตรวจเลือด 1400 ค่าพยาบาลบลาๆทุกครั้งที่คุณมาต่างหาก
ค่าจิตแพทย์ 650 / คน + ค่าพยาบาลต่อครั้งอีกรอบ
และวันตัดไหมวันจ่ายยาอีกครับ ยิบๆย่อยๆผมก็ไปเสียมาตอนตรวจจนนับได้หลายพันอยู่แต่สุดท้ายเอาฝีมือหมอยันฮี
ที่รพ.จุฬาทุกอย่างจะอยู่คนละแผนกกระจัดกระจายกันครับเป็นระบบเดินกระดาษ
ซึ่งแปลว่าคุณจะต้องหอบแฟ้มของตัวเองเดินไปตึกนั้นนี่ขึ้นๆลงๆอยู่ทั้งวันเพื่อเดินเรื่องทำทุกอย่างเองหมดครับ
ผมไปทั้งหมด 3 ครั้งที่จุฬายังสรุปวันผ่าไม่เสร็จเลยครับ มาลงเอยยันฮีรวมแล้วผมหมดค่าน้ำมันจุฬาไปมากโข

ตัวอย่างสำหรับคนที่จะผ่าตัดหน้าอกคร่าวๆน่ะครับขึ้นอยู่กับขนาดหน้าอกและความต้องการของแต่ละคนด้วย
ในรูปนี้รูปที่ 1,2 และ 3 คือการผ่าตัดแบบ (keyhole)
แต่ภาพที่ 3 มีการตัดแต่งหัวนมด้วยเพราะฉะนั้นลักษณะแผลเป็น + และทรงของหัวนมจะเป็นอย่างที่เห็นนะครับ รูปที่1-2 หัวนมจะเปลี่ยนสีคล้ำขึ้นแต่ไม่ดำ ความเปลี่ยนแปลงจากหัวนมจะไม่เยอะซึ่งหมอบอกว่าแบบนี้ผู้ชายปกติก็เป็นกัน

((เรื่องรูปหลังไมค์น่ะครับ))

รูปนี้ไม่ใช่รูปผมน่ะครับแต่วิธีการผ่าแบบเดียวกันคือ Keyhole เป็นการผ่าตัดที่เห็นแผลน้อยสุดสำหรับรูป 1-2
ส่วนรูป 3 ที่ผมเอามาเพราะบางท่านอาจจะต้องการลดขนาดหัวนมตัวเองหลังผ่าตัดไปแล้วนะครับ
(ผมก็ไม่ค่อยโอเคกับการลดขนาดหัวนมซักเท่าไรมันดูไม่ธรรมชาติ เพราะงั้นชะลอเรื่องหัวนมไปก่อนครับมันไม่ใช้ปัณหาใหญ่)
ถ้าต้องการรูปผมก็หลังไมค์น่ะครับเนื่องจากผู้ที่เอนตี้ FTM ก็มีอยู่เยอะแยะเพราะฉะนั้นอยู่แบบกลางๆครับ


About Me

25 comments:

  1. ขอเบอร์คุย What app หลังไมค์คับพี่

    ReplyDelete
  2. ช่วยส่งรูบพี่ตอนผ่าตัดแล้วตอนหน้าอกมาไห้เบอนี้หน่อยนะคับ 0906637530

    ReplyDelete
  3. what app มาก้ได้นะคับ

    ReplyDelete
  4. สวัสดีครับคุณนิกกี้ ผมอยากสอบถามเรื่องแพทย์ ศึกษาเรื่องนี้มาจากบทความพอสมควรสำหรับเรื่องฮอร์โมน ตัดสินใจจะรับฮอร์โมนครับ รบกวนช่วยแนะนำด้วย

    ขอบคุณล่วงหน้าครับ

    นิก

    ReplyDelete
  5. ขอบคุณคับคุณนิกกี้สำหรับข้อมูลต่างๆ ว่างๆ แวะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษาเพื่อนๆ ftm บ้างนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

    ReplyDelete
  6. อยากได้รูป ขั้นตอนการผ่าตัด ทั้งก่อนผ่า และหลังผ่า ลบกวนด้วยฮ่ะ gugolffy@hotmail.com

    ReplyDelete
  7. ขอบคุณมากครับ ได้ประโยชน์เยอะมากเลยครับ ผมอยากได้รูปตอนผ่าตัดด้วยครับ nong.316@hotmail.com

    ReplyDelete
  8. เล่นไลน์มั๊ยคับ รบกวนส่งรูปมาที่ไกษาอยุ่อ่ะคับผมอดี0872233304 เปนพระคุนมากๆเลยคับ กำลังศึกษาอยุ่อ่ะคับผม

    ReplyDelete
  9. อยากดูภาพหลังผ่าตัดครับ

    ReplyDelete
  10. รบกวนขอรูปของพี่ตอนก่อนผ่าและหลังผ่าด้วยได้มั้ยครับ
    ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
    ถ้ามีอะไรที่ผมสงสัยผมจะสอบถามไปทางอีเมลล์คงจะได้นะครับ

    scintillating_zymeth@hotmail.com
    ขอบคุณมากๆครับ

    ReplyDelete
  11. พี่คับต้องการทราบข้อมูลต่างๆที่มากกว่านี่อ่ะคับเพราะกำลังศึกษาเรื่องนี้อยุ่สนใจมาก พี่ช่วยส่งข้อมูลให้ที่
    icezeroza@gmail.com ขอบคุนมากคับ

    ReplyDelete
  12. สวัสดีครับคุณ Damnboiz ถ้าเราคิดว่าเราใช่ เราควรเริ่มต้นอย่างไรครับ ช่วยแนะนำทีครับ puy_lek@hotmail.co.th

    ReplyDelete
  13. สวัสดีครับ รบกวนขอภาพแผลหลังการผ่าตัดด้วยครับรบกวนส่งให้ที่ kid_d9@hotmail.com นะครับ ขอบคุณมากครับ

    ReplyDelete
  14. สวัสดีคับ รบกวนขอภาพก่อนและหลังผ่าตัดได้มั้ยคับ พร้อมคำแนะนำด้วยคับว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน พอดีกำลังสนใจที่จะทำบ้างอะคับกำลังหาข้อมูลหลายๆทางเพื่อประกอบการตัดสินใจคับ

    รบกวนส่งมาทาง prapaipanmoo@gmail.com ขอบคุณมากๆคับ

    ReplyDelete
  15. ที่ตรวจเลือดเขาตรวจ อะไรบ้างครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ อยู่ที่ช่วงอายุด้วย ของผมตรวจ 40 โรคที่เสี่ยงครับ (เลือด 3 หลอดใหญ่ๆ)

      Delete
  16. ตัดกับคุณหมอชื่ออะไรเหรอคับ อยากจะไปตัดมั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะทำกับหมอคนไหนดี

    ReplyDelete
    Replies
    1. ผมผ่าตัดกับ ดร.สุกิจ ครับ

      Delete
  17. รบกวนส่งรูปก่อนผ่าและหลังผ่าให้หน่อยได้ไมคับสนใจอยากผ่ายันฮีเหมือนกันคับ line:tiizger ขอบคุนคับ

    ReplyDelete
  18. อยากได้รูปหลังผ่าตัดคับรบกวนด้วยคับ
    aomnim906@gmail.com
    ขอบคุณคับ

    ReplyDelete
  19. อยากทราบว่าถ้าเราใช่ ควรเริ่มจากอะไรก่อนคับ ตอนนี้พร้อมทุกอย่างเเล้วเเต่จะเริ่มตรงไหนก่อน

    ReplyDelete
  20. ขอไลน์ติดต่อหน่อยได้มั๊ยคับ

    ReplyDelete