HRT (FTM)

Hormone replacement therapy (Female to Male)

หลายครั้งที่มีคนถามเรื่องฮอร์โมนกันเยอะมากแหล่งข่าวแต่ละที่ก็ให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน

ตรงนี้ต้องเข้าใจไว้ด้วยนะครับว่าฮอร์โมนยังถือเป็นยาที่มีการทดลองไม่ชัดเจนในผลกระทบหลายๆด้าน

เนื่องจากขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนภาวะ/อาการแต่ละคนด้วยครับ

ข้อมูลที่ผมจะพิมพ์ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ผมผ่านมาเองกับตัว

ศึกษาแรกๆจากตามบล๊อคของผู้ที่เคยรับฮอร์โมนบ้างและได้รับคำตอบจากแพทย์ที่จุฬาและยันฮี (ที่ผมรับยาอยู่ทุกวันนี้)

ผมไม่ได้บอกว่าข้อมูลผมถูกต้อง 100% เพราะให้กลับไปอ่านด้านบนอีกรอบครับว่า

"ฮอร์โมนเป็นยาที่มีการทดลองไม่ชัดเจนในผลกระทบหลายๆด้าน"

เพราะฉะนั้นแพทย์ที่ให้คำตอบผมมาก็ตอบเฉพาะเคสที่พวกท่านได้เจอมาเท่านั้นครับ

ข้อความที่ผมจะพิมพ์ต่อไปนี้ก็ให้ใช้วิจารณญาณกันนะครับขั้นตอนของผมแต่ละขั้นตอนผมมีใบจากทางรพ.ทุกครั้งในการพบแพทย์ (ผมจะลงในหน้าถัดไปที่เป็นขั้นตอนที่ผมเริ่มต้นทีละขั้น)

เนื่องจากทั้งกระแสและไม่กระแส จากทั้งผู้ที่ต้องการหาข้อมูลหลายๆที่แล้วรวมๆกันเพื่อตัดสินใจผมขอเอ่ยตรงนี้ก่อนเลยว่า นี่คือ Blog ของผมผมขอตั้งคำอธิบายทีละข้อดังนี้นะครับ

1. ข้อความทุกข้อความที่ผมพิมพ์นี้ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งสิ้น
2. ผมไม่ได้ขายยาเพราะฉะนั้นผมไม่มีอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับตัวผมเองนอกจากอัพเดจชีวิตผมสิื่งที่ผมผ่านและข้อมูลที่ผมเองวันนึงอาจจะลืมและกลับมาย้อนอ่านเอง
3. ให้ความเคารพกับทุกๆข้อความในพื้นที่ของผมนะครับเพราะผมรู้ว่ามีคนที่คิดต่างจากหลายๆเพศบางท่านอาจไม่เห็นด้วยในบางขั้นตอนเรื่องเพศของผม (แน่นอนทุกคนมีสิทธิคิดต่าง)
4. ข้อสุดท้ายผมขออภัยหากผมพิมพ์ข้อความหรือคำศัพท์บางคำผิดผมไม่ได้เซียนภาษาไทยขนาดนั้น
5. มีคนส่งข้อความ/โทร/Line/WhatsApp ถามผมหลายครั้งผมก็ยินดีตอบกับทุกคนโดยที่ผมก็ไม่เคยไปบ่นอะไรพวกเขาเพราะพวกเขาต้องการคำอธิบายซึ่งผมก็ทำได้เพียงเท่านั้นพวกคุณจะปติบัติหรือไม่อย่างไรอันนี้คือชีวิตของคุณเองนะครับแต่ผมเตือนไว้ก่อนเลยว่าทุกขั้นตอนมีความเสี่ยงอยู่ที่ว่าเราจะเลือกปติบัติให้มันเป็นขั้นตอนทีละนิดทีละน้อยหรือเปล่า
6. ผมไม่ได้ตามล่าหาชื่อเสียงหรือเปิดเผิยตัวตนในที่โจ่งแจ้งเพราะผมมีหลายเหตุผลที่ผมคิดว่าการใช้ชีวิตปกติธรรมดาคือชีวิตที่วิเศษสุด
7. คำจำกัดความของ FTM (Female To Male) หรือ Trans สำหรับผมคือการที่เราต้องการเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง ใช้ชีวิตธรรมดาคนนึง โดยที่ไม่ได้มีคนคิด/รู้ว่าเราเกิดมาเป็นเพศไหนแต่ต้น (ภายนอก) หากเปลี่ยนแปลงรากฐานแต่กำเนิดได้ผมเชื่อว่าคนที่เป็น FTM/Trans ก็คงคิดแบบเดียวกัน (ซึ่งแน่นอนว่าความคิดนี้ในแต่ละเพศจะแตกต่างออกไปครับไม่ว่าจะเป็น ทอม/ดี้/กระเทย/เกย์) ง่ายๆคือกระเทยกับตุ๊ด ก็ต่างกันแล้วถูกไหมครับ ไม่มีกระเทยคนไหนที่อยากถูกมองว่าเคยเป็นชาย? พวกเขาก็อยากเป็นผู้หญิงธรรมดาใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนกัน นั่นแหละครับนิยามของผม เพราะฉะนั้นหากปลายทางของคุณไม่ได้อยู่ที่นั่นผมคิดว่าการเริ่มฮอร์โมนไม่ใช่เรื่องที่ควรครับเพราะอะไร ตามไปอ่านครับ 

8. ผมเข้าใจคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิตแต่ตัดสินใจเรื่องสถานที่การเข้ารับรักษาไม่ได้เพราะไม่มีข้อมูลในเมืองไทย แต่สำหรับคนที่คิดว่าต้องการใช้ยาแค่เพื่อหนวดหรือเสียงแตกผมแนะนำอย่างยิ่งว่า "ให้อ่านคำอธิบายการทำงานของยา" ว่าผลกระทบมันมีอะไรบ้างเมื่อคุณหยุดยา และที่สำคัญนะครับ
9. อ้อและที่สำคัญ Blog ผมก็เหมือนไดอารี่เล่มนึงที่ผมเขียนไว้อ่านทวนความจำผมเองส่วนบางหน้าเพจที่ผมสร้างมานี้ก็สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องเอาข้อความของผมไปสู้รบหรืออ้างอิงกับเพจไหนๆนะเพราะทุกๆที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเสมอคนที่อยู่วงนอกแน่นอนไม่รู้เท่าภายในหรอกครับ

กล่าวถึงเรื่องฮอร์โมนนะครับ

อันดับแรกให้ทำความเข้าใจถึงการทำงานของฮอร์โมนก่อนแล้วค่อยๆคิดทีละขั้น

ฮอร์โมนให้แบ่งผลกระทบเป็น 2 อย่างคือภายในและภายนอก

อันดับแรกต้องเข้าใจการทำงานของฮอร์โมนก่อนว่ามันเข้าไปควบคุมการทำงานของรังไข่ (การผลิตฮอร์โมนเพศ ญ ) ทำให้เรามีฮอร์โมนเพศ ญ ต่ำกว่าเดิมและ ฮอร์โมนเพศ ช สูงขึ้น

ทีนี้ก็ต้องรู้ไว้ก่อนว่าผู้หญิงเองโดยธรรมชาติและเราเองก็มีฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเหมือนกัน (แต่ต่ำ)

ผู้ชายเองก็มีฮอร์โมนเพศหญิง (แต่ต่ำ) ความแตกต่างของแต่ละบุคคลนี้ทำให้สรีระร่างกายแตกต่างกันไปเช่นผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายสูงก็มีสรีระสะโพกผายอกใหญ่ ประมาณนั้น

เกิดอะไรขึ้นเมื่อเรารับฮอร์โมนเข้าร่างกาย

ทีนี้เมื่อเราฉีดฮอร์โมนเพศ ช เข้าไปทำให้เรามีฮอร์โมนเพศ ช สูงกว่าฮอร์โมน ญ สรีระเราจึงเปลี่ยน หนวดเคราก็ตามมา (แล้วแต่กรรมพันธุ์) รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบกร้าน สิวเกิดจากฮอร์โมนก็ตามมาเป็นพรวนแต่จะขึ้นบริเวณไหนของร่างกายอยู่ที่แต่ละบุคคล บางคนขึ้นที่หลังเยอะมากแบบเป็นผดๆๆแต่ที่หน้าไม่ขึ้นเลยก็มี บางคนขึ้นหน้าเป็นสิวอักเสบสิวหัวช้างเลยก็มี

บางคนระยะ 5 ปีขึ้นไปก็เริ่มมีอาการหัวล้าน (ของแบบนี้ให้สังเกตุที่ญาติฝ่ายแม่เราครับถ้าหากมีชายคนใดมีหัวเหน่งแบบนั้นก็นั่นหละเราก็มีโอกาสถึง 80%) 

เรื่องสิวๆ

ปันหาตรงนี้แก้ยากสุดคือเรื่องสิวเพราะต่อให้รักษากับหมอสิวโดยเฉพาะ หมอสิวก็จะบอกว่าเกิดจากฮอร์โมนทำได้แค่รักษาตามอาการ แต่ไม่ควรกินยาที่หมอสิวจัดให้มาหรอกนะเพราะยาตัวนั้นไปลดระดับฮอร์โมนในตัวเรา (ในเมื่อต้องฉีด แล้วไปลด เราก็ต้องเพิ่ม)มันก็ขึ้นๆลงๆแบบนี้ การได้รับฮอร์โมนแกว่งไม่เป็นผลดีอย่างมากทำให้ร่างกายภายในทำงานไม่ปกติ

อารมณ์และพฤติกรรม

ฮอร์โมนเป็นตัวกำหนดควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม แน่นอนว่าเปลี่ยนครับหลังได้รับยาแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนมีความสุขุมมากขึ้น บางคนก็ก้าวร้าวควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ไปเลยก็มี โมโหง่าย อยู่ที่พื้นฐานการเลี้ยงดูภายใต้จิตใจเราลึกๆด้วย และสภาพแวดล้อมว่ามีความกดดันมากเท่าไรครับ ถ้ามีความกดดันเยอะความก้าวร้าวก็เยอะควบคุมไม่ค่อยอยู่หรอก ให้นึกถึงวัยรุ่นชายที่แบบอารมณ์ฉุนง่ายๆประมาณนั้นเลยรู้ตัวอีกทีก็เหวี่ยงจนรอบข้างเสียไปหมดแล้วก็มี ใช้เวลาปรับตัวกับอารมณ์พวกนี้หากควบคุมได้ก็หลังสองปีขึ้นไปครับ

ในเมื่อตัดสินใจจะรับฮอร์โมน

หากคิดจะรับฮอร์โมนให้แพลนเดือนที่จะผ่าตัดรังไข่และมดลูกไว้เลย (ขั้นที่ 2) เพราะ รังไข่เปรียบเสมือนเครื่องจักรที่คอยทำงาน(โดยธรรมชาติ) ผลิตฮอร์โมนเพศหญิงให้กับร่างกายเรา เพื่อรักษาร่างกายเราให้สมดุลตามเพศที่เราเกิดมา แต่เราดันฉีดฮอร์โมนเพศชายแบบสังเคราะเข้าไป (ให้เปรียบเหมือนท่อนเหล็กท่อแป๊ป) ที่เอาไปดามขัดเครื่องจักรไว้ให้มันทำงานติดขัด (เพื่อควบคุมการผลิตฮอร์โมนเพศ ญ ) ในขณะที่รังไข่มันก็ฝืนๆๆๆๆๆ พยายามเร่งเครื่องจักรทำงานให้แรงกว่าเดิม(ให้ผลิตฮอร์โมน ญ มากกว่าเดิม)เพื่อที่จะทดแทนส่วนที่ถูกควบคุม ทีนี้ก็พอเข้าใจนะครับว่าหากเราได้รับฮอร์ ช ไม่สม่ำเสมอก็จะเกิดการทำงานที่ไม่สมดุลภายใน

เกิดอะไรขึ้นเมื่อเรายังมีรังไข่และตัดสินใจหยุดใช้ฮอร์โมน

ผมว่าจุดนี้สำคัญเพราะมีหลายคนที่คิดว่าอยากใช้ยาแค่เพราะอยากมีหนวดเสียงเปลี่ยนเสียงแตก

เมื่อไรที่เราหยุดฮอร์โมน ช เจ้ารังไข่ก็เร่งผลิตฮอร์ ญ อยู่เหมือนเดิมเพราะมันถูกขัดการทำงานไปในช่วงเวลาหนึ่ง แปลว่า (กลับไปอ่านข้างต้นที่อธิบายเรื่องระดับฮอร์โมน) เราจะมีสรีระ ญ ที่เด่นชัดกว่าก่อนที่เราใช้ฮอร์โมนเสียอีก

เนื่องจากมีฮอร์่โมนญ​มากกว่าเดิม ก็จะสะโพกผาย อกโต หัวนมแตกพานเป็นวงกว้างกว่าเดิม ไประยะใหญ่ๆพอจนกว่าร่างกายจะรับรู้ว่าตอนนี้เราไม่ได้มีฮอร์ชายมาแทรกแล้วนะ มันจึงค่อยๆลดการทำงานผลิตฮอร์ ญ ให้ปกติครับพอฮอร์โมน อยู่ในค่าปกติ อะไรที่เคยใหญ่แล้ว (สะโพกผายอกโต) ก็ยากที่จะลดลงมาเหมือนเดิมบางคนก็ไม่ลดเลย

หากใช้ฮอร์โมนต่อไปเรื่อยๆในขณะที่มีรังไข่อยู่ละ

แต่หากใช้ฮอร์ ช ไปต่อเรื่อยๆโดยที่ยังมีรังไข่อยู่ การไปขัดการทำงานกันและกัน ซักวันก็พัง แปลว่าภายในเราเองจำเป้นต้องกำจัดที่ต้นเหตุครับคือรังไข่ (คำว่าพังในที่นี่คือการก่อโรคต่างๆเช่นมะเร็งในรังไข่/มดลูก/ปากมมดลูก) การที่ประจำเดือนไม่ได้ถูกขับออกมาแล้วช่วงไหนที่ร่างกายเราได้รับฮอร์โมนแต่แกว่ง(ไม่สม่ำเสมอ) ก็จะทำให้ผนังช่องคลอดเรามีความหนาขึ้นครับเป็นต้นเหตุให้เกิดมะเร็งในปากมดลูก/ช่องคลอด

เพราะงั้นถึงบอกว่ารายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะถ้าหากก้าวไปซ๊ายก็ต้องเลือกกำจัด ถ้าหากก้าวไปขวาก็ไม่ควรริเริ่ม

คำว่ามะเร็งมันไม่ไ่ด้หยุดอยุ่กับที่นะครับมัน"ลาม" จากที่ตัดส่วนสำคัญอย่างเดียวก็จะกลายเป็นต้องรักษาโน่นนี่นั่นบานปลายกันยาวเหยียดเลยละครับทีนี้

หากแพลนได้เรียบร้อยแล้วปันหาที่จะตามมามันน้อยกว่าครับ

ในเมื่อรู้แล้วว่าตัวเราเองต้องการอะไร ตัวเราเองเป็นใครและทางไหนคือทางเดินของเรา

ก็มาถึงขั้นตอนต่างๆในการเริ่มนะครับ ผมแนะนำได้เฉพาะสิ่งที่ผมทำมาและผ่านมา

คนอื่นอาจจะมีวิธีอื่นอันนี้ก็แล้วแต่คนนะครับ ^_^

หน้าถัดไป  "ขั้นตอนการเริ่มต้นรับยาสำหรับผม"  (มาอัพเดจครั้งหน้านะครับเพราะต้องลงรูปภาพใบจาก รพ.ต่างๆอีก และ ข้อแตกต่างของยาจากสถานที่ต่างๆทำไมบางรายใช้ทุกๆ 14 ทำไมบางคน 21 ทำไมบางคน 1 เดือน ผมจะมาอธิบายหน้าถัดไปนะครับ 

และอีกหน้าถัดไปผมก็จะอัพเรื่องเกี่ยวกับ "เอกสารสำหรับผู้ที่ต้องข้ามไปประเทศต่างๆ" และกลัวว่าความเปลี่ยนแปลงภายนอกจะทำให้ติดด่านตรวจเพราะไม่ตรงกับคำนำหน้านะครับ

(ตรงนี้ให้เข้าใจไว้ด้วยว่าแต่ละคนมีข้อโต้แย้งต่างกันแน่นอนเพราะผมเชื่อว่าหมอของแต่ละคนก็คงตอบไม่เหมือนกัน) แต่ทุกวันนี้แต่ละขั้นตอนของผม ผมเก็บเอกสารและที่สำคัญในแต่ละขั้นตอนไว้หมดวันที่ที่ผมเริ่มต้นแต่ละครั้งไว้หมดอะไรที่ไม่มีที่อ้างอิงผมก็ไม่อยากเอามาเป็นอักษรให้เกิดความเสี่ยงในการเสพข้อมูลของแต่ละท่านนะครับ

About Me

Damnboiz

ประวัติส่วนตัว >> คลิก <<

View my complete profile