ณ ตลาดหัวมุม กับบัตรจอดรถมูลค่า100฿

ณ ตลาดหัวมุม กับบัตรจอดรถมูลค่า100฿
เป็นตลาดหัวมุมที่เรียบด่วนรามอินทราที่สถานที่จอดรถโคตรแออัด!
ขับรถเข้ามารับบัตรจอดรถเป็นกระดาษธรรมดาหน้าตาใกล้เคียงบิล7-11 พร้อมจ่ายค่าจอดรถ30฿
ขาออกหาบัตรไม่เจอน่าจะทิ้ง/หล่น/ซักอย่างจากกระเป๋ากางเกง
จึงโดนค่าปรับไป100฿
😰
หงุดหงิดชะมัด วินาทีนั้น เพราะปกติเวลารับบัตรจอดรถตามตลาดนัด/งานกาชาติ/รถไฟศรีนครินทร์ ถ้าเราจ่ายเงินและรับใบฉีกจอดรถแล้วก็จบเพราะจ่ายค่าจอดแล้วไม่จำเป้นต้องเก็บกระดาษนั้นไว้

ปกติแล้วการเรียกเก็บค่าปรับหรือมีการเทียบเคียงมูลค่าของพวกนี้มีกฎอะไรบ้างใครพอทราบไหม
อันนี้แค่สงสัยไว้เป็นความรู้ประดับหัวเฉยๆนะ
ยินดีจ่ายเพราะทำหายจริงแต่ก็อดสงสัยไม่ได้

คำถามผมคือ

1.การจอดรถแบบนี้มีค่าจอดมีค่าปรับเศษกระดาษหายนี่ หากเกิดอะไรกับรถเราเช่น-หาย,เฉี่ยว บลาๆ ทางสถานที่รับจอดเขาจะรับผิดชอบอะไร?

2. การปรับบัตรหายที่อื่นๆผมเข้าใจตลอดว่าทำเพื่อความปลอดภัยกันคนขโมยรถและเอาออกมา หากบัตรหายจึงต้องให้เจ้าตัวนำหลักฐานการเป็นเจ้าของรถมาแสดงถึงจะนำรถออกได้ แบบนี้เข้าใจว่าเป็นการรักษารถเราไปในตัว
แต่!!! เมื่อคืนไม่ใช่แบบนั้น เป็นแค่การเอารถขับผ่านไปและมีเด็กต่างชาติเพื่อนบ้านวิ่งมาเก็บเงิน 100฿ เพราะกระดาษใบจอดรถหาย แบบนั้นมันช่วยเซฟเรื่องรถเราหายยังไงวะ มีค่าปรับไว้เพื่ออะไร? ตามห้างค่าปรับจ่ายเพราะบัตรแข็งมีต้นทุนในการผลิต หาย = ทำใหม่เพิ่มตามจำนวนที่หาย อันนี้เข้าใจดี แต่กระดาษฉีกเขียนมือ มีมูลค่าอะไร 100฿??

3. การเก็บเงินทุกประเภทผมเข้าใจมาตลอดว่าต้องมีใบรับเงิน/ใบเสร็จ+ต้นขั้วทุกกรณี เข่นจ่ายทางด่วนก็มีใบรับเงิน เพื่อเป็นการแสดงภาษีไม่หลีกเลี่ยง แต่ตามตลาดนัดต่างๆมักไม่มีแต่ทำโจ่งแจ้ง อย่างกรณีผม ใบจอดรถมีต้นขั้วโอเคสามารถแสดงจำนวนผู้เข้าบริการและยอดรายรับของค่าที่จอดเพื่อแสดงภาษีได้ แต่การเก็บค่าปรับใบจอดรถหายไม่มีใบรับเงินนะ ไม่มีต้นขั้วหรืออะไรเลย แบบนี้มันถูกกฎหมายหรอ? แบบนี้ใครก็เอายัดเข้ากระเป๋าตัวเองง่ายๆเลยสิ!!

ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย #ตลาดหัวมุม #เลียบด่วนรามอินทรา